เคล็ดลับ

เคล็ดลับการกินชะลอวัย

                แม้ว่าเลขอายุไม่สามารถชะลอวัยได้ แต่สภาพร่างกายและวัยสามารถชะลอได้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของเรา หมายถึงเราต้องรักษาสภาพเซลล์ของร่างกายให้ดี และสุขภาพร่างกายจะดีได้ก็อยู่ที่ภูมิคุ้มกันโรค ฉะนั้น จะชะลอวัยได้ต้องเริ่มที่การสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ระบบภูมิคุ้มกันที่ดีเกิดจากการได้รับวิตามินซีในการทำงาน จึงควรทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจำพวก พืชผักและผลไม้

                วิตามินเอ เป็นสารต้านไวรัสอันทรงพลัง และช่วยบำรุงต่อมทัยมัส พบได้ในตับและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาที่มีไขมันสูง น้ำมันตับปลา รวมทั้งเบต้าแคโรทีนในพืชผักที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นวิตามินเอได้ เช่น ข้าวโพด

                วิตามินบี สำคัญต่อการทำงานของฟาโกไซด์(เซลล์เม็ดเลือดขาว) เช่น ข้าว ดอกกะหล่ำ และเห็ดหอม

                วิตามินอี อีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอานุภาพ และช่วยกระตุ้นการผลิตแอนติบอดี(ภูมิคุ้มกัน) รวมทั้งแร่ธาตุก็มีความสำคัญเช่นกัน เช่น มะม่วง เมล็ดทานตะวัน

                แคลเซียม ช่วยให้เซลล์ฟาโกไซด์ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น ดอกกะหล่ำ มะนาว  

                ซิลิเนียม จำเป็นสำหรับการผลิตแอนติบอดี (ภูมิคุ้มกัน) เช่น องุ่น เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น

                ธาตุเหล็ก เสริมสร้างภูมิต้านทาน เช่น เห็ดหอม อัลมอนด์

                สังกะสี ช่วยในกระบวนการของระบบภูมิคุ้มกัน และการเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดขาว มีอยู่ในเมล็ดพันธุ์พืช ถั่วเปลือกแข็ง และผักใบเขียว เช่นข้าว ผักโขม บร็อกโคลี่ และเมล็ดฟักทอง

                โปรตีน เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ภูมิคุ้มกันเข้มแข็งเนื่องจากร่างกายต้องใช้โปรตีนในการผลิตเซลล์ต่างๆรวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน โปรตีนประกอบไปด้วยกรดอะมิโน เช่น กรดอะมิโนกลูต้าไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และสารล้างพิษที่สำคัญ เป็นต้น

เคล็บลับชะลอวัยไม่ใช่เฉพาะเรื่องกินอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังขึ้นอยู่กับการปฎิบัติตัวของเราเองด้วย

จะเครียดกันไปทำไม อารมณ์เครียดจะส่งผลเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนที่มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานลดลงเกิดการติดเชื้อได้ง่าย จึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเครียด

นอนให้พอ หลับให้สนิท การนอนไม่พอมีผลต่อการลดการสร้างเซลล์ในระบบภูมิต้านทาน เช่น แอนติบอดี จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยซิคาโกในผู้ที่นอนหลับคืนละ 7 ชม. เป็นเวลา 4วัน แล้วให้วัคซีนไข้หวัด พบว่าคนกลุ่มนี้จะสามารถสร้างแอนติบอดี ซึ่งเป็นเซลล์ในระบบภูมิต้านทานต่อเชื้อไข้หวัดได้มากกว่าผู้ที่มีนอนหลับคืนละ 4 ชม.ถึง 50%

ดื่มน้ำเปล่า ช่วยให้เบาสมอง  การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8แก้ว จะช่วยเพิ่มสารคัดหลั่งและความชุ่มชื้นของเยื่อบุผิวในท่อทางเดินหายใจส่วนบน ที่จะช่วยป้องกันและดักจับฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

บริหารร่างกาย เรียกเหงื่อ  นอกจากช่วยให้กล้ามเนื้อร่างกายแข็งแรงและยังช่วยขับของเสียผ่านทางเหงื่อ และเพิ่มปริมาณการไหลเวียนเลือดทำให้เซลล์ต่างๆในระบบภูมิต้านทาน เช่น แอนติบอดีและเม็ดเลือดขาว เดินทางไปทำลายสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคที่บริเวณอวัยวะต่างๆได้เร็วขึ้น

กินทั้งที กินให้ถูกวิธี  โดยเฉพาะอาหารเสริมภูมิต้านทาน อย่างเช่น ผัก ผลไม้ ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี และแร่ธาตุบางชนิด ได้แก่ ซีลีเนียม และสังกะสี ซึ่งมีผลเพิ่มการสร้างเซลล์ต่างๆในระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและอี ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ต่างๆของร่างกายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระอันเป็นตัวการก่อมะเร็งได้อีกด้วย

เลิกเสียทีพฤติกรรมเสี่ยง  ลดพฤติกรรมที่ส่งผลให้ภูมิต้านทานอ่อนแอลง เช่น เลี่ยงการกินอาหารหวานจัด ไม่ดื่มแอลกฮอล์เกินวันละ /2 แก้ว ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไปด้วยวิธีง่ายๆใกล้ตัวเราเหล่านี้ก็จะสามารถคงไว้ซึ่งสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายต่างๆได้